วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ส้มซ่า


ส้มซ่า


ส้มซ่า Citron หรือมะนาวควาย
ภาษาอังกฤษเรียกได้หลายคำเช่น Bitter orang, Seville orangeแทบยุโรปเรียก, Bigarade orange, Marmalade orange
ชื่อวิทยาศาสตร์ Citrus aurantiuml. CV.Group bouquetier


ส้มซ่าเป็นพันธุ์ผสมระหว่าง Citrus maxima (pomelo) and Citrus reticulata (mandarin) เป็นไม้ยืนต้นสูง 3-10 เมตร มีถิ่นกำเนิดประเทศอินเดีย

ส้มซ่าเป็นพืชที่มีน้ำมันหอมระเหยที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมีกลิ่นหอม นำไปทำเป็นเครื่องเทศปรุงอาหารก็ได้ หรือนำไปล้างทำความสะอาดก็ได้ ในประเทศแทบยุโรปนำส้มซ่าไปทำแยม

ยา
ทางการแพทย์ส้มซ่า ถูกนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรเป็นยากระต้น ระงับอาการความยากอาหาร เป็นยากระตุ้นทำให้เราตื่นตัวเนื่องจากมีสาร synephrine

synephrine : มีอีกชื่อว่า oxedrine เป็นสารที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับยาเสพติดหลายๆตัว มีคุณสมบัติขยายม่านตาและลดอาการคัดจมูก ปัจจุบัน synephrine เป็นสารเคมีที่ผิดกฏหมายในหลายประเทศเนื่องจากเป็นสารตั้งต้นในการผลิต Metamphetamine
ผลข้างเคียงsynephrineคือ การผิดปรกติของระบบหัวใจ หลอดเลือด ทำให้ใจสั่น และเส้นโลหิตในสมองแตกได้ และมีผลข้างเคียงถึงชีวิต


ระยะดอกตูม ส้มซ่า

ระยะดอกตูนประมาณ 10 วัน

ดอกส้มซ่า จากระยะดอกตูมจนบาน ประมาณ 25 วัน


พันธุ์ส้มซ่า
ในประเทศเวียดนามส้มซ่าเป็นผลไม้พื้นเมืองของชาวเวียดนามหาได้ตามป่าดิบ และประชาชนนิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ก็มีการนำส้มซ่ามาทำเป็นแยม เหล้า เหล้าประเภทวอสก้าเช่นยี่ห้อ Grand Marnier และเหล้ายี่ห้อ Curacao การนำดอกส้มซ่ามาทำน้ำมันหอมระเหย aromatic

ในประเทศแทบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน จะเรียกส้มซ่าว่า Bitter orange มักนำเปลือกส้มซ่าซึ่งมีผิวหนาเป็นบุ๋มนำมาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เป็นแยมซึ่งสร้างรายได้กว่าการขายส้มหวานชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ยังเอาไปทำแช่อิ่ม เหล้ารสส้ม

ในประเทศอังกฤษและ แคว้นอันดาลูซีอา(Andalusia)ประเทศสเปน  นำผลผลิตใน 1 ปีของส้มซ่าทั้งหมดมาทำเป็นแยม

ในประเทศอิตาลีนำส้มซ่าไปทำเครื่องดื่มประเภทโซดา และเครื่องดื่่มประเภท soft drink ยี่ห้อChinotto เป็นเครื่องดื่มผลไม้จากดอกเมอร์เทิล(Myrtle)กับส้มซ่า


ในการแพทย์แผนโบราณของจีนและญี่ปุ่น นำต้นDaidai สายพันธุ์ของส้มซ่ามาใช้ในการรักษาซึ่งมีสรรพคุณเป็นยาขับเสมหะและชูกำลัง  ช่วงเทศกาลปีใหม่ชาวจีนและญี่ปุ่นจะนำต้นDaidai มาเฉลิมฉลองเป็นประจำทุกปีเนื่องจากดอกมีความสวยงามและนำผลส้มซ่ามาผสมกับชาเพิ่มความ aromatic


ป่าส้มซ่าฟลอริดาเกิดขึ้นใกล้กับลำธารเล็กๆ ซึ่งเป็นป่าที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ อันเป็นส่วนหนึ่งของป่าฟลอริดาและบาฮามาส เป็นพันธุ์ส้มซ่าของที่นี้ได้มาจากประเทศสเปน


มะกรูดBergamot ซึ่งเป็นพันธุ์ผสมของ ส้มซ่ากับส้มlimetta เป็นที่นิยมในประเทศอิตาลี ในการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันมะกรูด เป็นส่วนประกอบของแบรนน้ำหอมและชา เช่น Earl Grey (อ่านว่า เอิร์ลเกรย์)

ยอดอ่อนส้มซ่า



แมลงและศัตรูพืช
เพลี้ยไฟ กำจัดด้วยสาร Natural oil  98.8 % เพื่อไปอุดทางเดินหายใจของเพลี้ยข้างลำตัว ทำให้หายใจไม่ออกเลยตาย และคุณสมบัติอีกอย่างของน้ำมันประเภทนี้คือ มีความหนืด เหนียวๆ เพลี้ยลำตัวขนาดเล็กแรงไม่พอ จึงเหนียวติดต้นไม้ตาย

หรือ เพลี้ยไฟ กำจัดด้วยสารอิมิดาคลอพริด (imidacloprid) สารกำจัดแมลงชนิดดูดซึม ออกฤทธิ์ทั้งถูกตัวตายและกินยาตาย ใช้อัตรา 10 ซ๊ซี ต่อน้ำ 20 ลิตร


ยอดอ่อนส้มซ่า


การใช้งาน
ส้มซ่าที่มีขนาดใหญ่มีลักษณะเป็นแก่นไม้แล้ว มีสีเหลืองและสีขาว นำมาทำเป็นไม้เบสบอลในประเทศคิวบา

 ในการทำพันธุ์ส้มหวาน sweet orange เพื่อจำหน่ายจะนำตอส้มซ่ามาตัดแต่งกิ่ง

ผลส้มซ่าและใบส้มซ่านำมาทำเป็นแชมพูและสบู่ได้


การนำส้มซ่ามาทำอาหาร

ชาวทมิฬ ประเทศอินเดีย นำผลส้มซ่าหั่นเป็นชิ้นเล็กๆหมักกับเกลือ ชาวอินเดียเรียกว่า Narthangai  นำมารับประทานกับข้าวเต้าหู้ (Yoghurt rice/thayir sadam)

กานำน้ำของผลส้มซ่า มาหมักกับเนื้อ เพื่อให้เนื้อนุ่ม หอม น่ารับประทาน เช่น นิการากัว คิวบา โดมินิกัน เฮติ คล้ายกับอาหาร ซิวิชี (Ceviche) ประเทศเปรู ที่นำอาหารทะเลมาหมักกับมะนาว

เปลือกส้มซ่านำมาทำเป็นเหล้าในตระกูล bitters ซึ่งมีกลิ่นฉุนมาก

ในแคว้นยูคะทาน ประเทศเม็กซิโก ใช้ส้มซ่าเป็นส่วนผสมหลักในการทำ Cochinita pibil

ในการทำหมักเบียร์ของประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นเบียร์ประเภท วิทเบียร์ Witbier ต้องใช้ข้าวสาลีหรือข้าวโอ้ต ผสมกับเครื่องเทศเช่น เปลือกส้มซ่า เบียร์ที่ได้จะมีสีอ่อน ขุ่น มีรสเปรี้ยวเล็กน้อย มีฟองฟู่ฟ่อง ด้วยเบียร์ลักษณะเช่นนี้ บางคนจึงเรียกว่า เบียร์ขาว white beer


ในประเทศฟินแลนด์และสวีเดน ใช้เปลือกส้มซ่าทำขนมปังขิง เรียกว่า "Pepparkakor" และในงานคริสต์มาสจะใช้เปลือกส้มซ่าเป็นส่วนผสมในการทำ Mammi


ในกลุ่มประเทศนอร์ดิก ได้แก่ เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ นอร์เวย์ และสวีเดน นำส้มซ่าไปทำไวน์ร้อน ซึ่งเอาไว้ดื่มในช่วงหน้าหนาว เมื่อจะดื่มต้องนำไวน์ไปอุ่นก่อน ชาวนอร์ดิกเรียกว่าการเสิร์ฟร้อนหรือเสิร์ฟอุ่น หรือ Glogg

ในกรีซและไซปรัส นำส้มซ่ามาทานกับขนมspoon sweets

เมือง Narenj ประเทศอิหร่าน นำส้มซ่าไปทำน้ำสลัด

ดอกส้มซ่าสดจะมีกลิ่นหอมมาก นำมาทำแยมราคาคุณภาพ


ในตุรกี ในรัฐ Cukurova นำส้มซ่ามาทำน้ำสลัด









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น