เหล่าบรรดาผักผลไม้สีสันสวยงาม ต่างแฝงไปด้วยประโยชน์มากมาย ยกตัวอย่างผักสีสันจี๊ดๆ ที่ประโยชน์ก็แรงไม่แพ้กัน
มะเขือเทศ
ใน
ผลมะเขือเทศมีสารจำพวกแคโรทีนอยด์ ชื่อไลโคพีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารสีแดง
และวิตามินหลายชนิด เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินเค
โดยเฉพาะวิตามินเอ และวิตามินซี มีในปริมาณสูง มีกลดมาลิค กรดซิตริก
ซึ่งให้รสเปรี้ยว และมีกลูตามิค (Glutamic)
ซึ่งเป็นกรดอะมิโนช่วยเพิ่มรสชาติให้อาหาร
นอกจากนี้ยังประกอบด้วยสารเบต้าแคโรทีน และแร่ธาตุหลายชนิด เช่น แคลเซียม
ฟอสฟอรัส เหล็ก เป็นต้น
ประโยชน์ของมะเขือเทศ
ผล
มีรสเปรี้ยวช่วยดับกระหาย ทำให้เจริญอาหาร บำรุงและกระตุ้นกระเพาะอาหาร
ลำไส้ ไต ให้ทำงานได้ดี ช่วยขับพิษและสิ่งคั่งค้างในร่างกาย
เนื่องจากเป็นยาระบายอ่อน ๆ เหมาะที่จะเป็นอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคนิ่ว
วัณโรค ไทฟอยด์ หูอักเสบและเยื่อตาอักเสบ
ให้รับประทานผลสดลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมาก
ผิว
หนังที่โดนแดดเผา
สามารถใช้ใบของมะเขือเทศนำมาตำให้ละเอียดแล้วทาบริเวณที่เป็นนำราก ลำต้น
และใบแก่ต้มกับน้ำรับประทานแก้อาการปวดฟัน
นำน้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือผลมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง
การ
รับประทานมะเขือเทศสุกเป็นประจำจะช่วยลดการแข็งตัวของผนังหลอดเลือด
รักษาโรคลักปิดลักเปิด เลือดออกตามไรฟัน ช่วยบำรุงสายตา และช่วยย่อยอาหาร
ลดความดันโลหิต และช่วยบรรเทาอาการป่วยของผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจ
โรคความดันโลหิตสูง และโรคตับอักเสบ
คั้นน้ำมะเขือเทศสุกหรือปั่น ดื่มรับประทาน ลดอาการท้องอืดเฟ้อ และอาหารไม่ย่อย ช่วยดับกระหายคลายร้อน และช่วยรักษาโรคแผลร้อนใน
กะหล่ำปลีม่วง
ไม่
ว่าจะเป็นกะหล่ำปลีม่วง หรือกะหล่ำปลีแดงก็เป็นผักกะหล่ำชนิดเดียวกัน
แต่ถูกเรียกขานแตกต่างกันไป
ซึ่งเจ้าผักสีสวยที่หลายคนมักทำเป็นสลัดค่อนข้างมีประโยชน์หลากหลายมากกว่า
จะเป็นผักตกแต่งจานเพียงอย่างเดียว
ประโยชน์ของกะหล่ำปลีสีม่วง
เนื้อ
ของกะหล่ำปลีม่วงออกรสขมกว่ากะหล่ำปลีสีขาวธรรมดาเพราะมีสารอินไทบิน
แต่สารอินไทบินตัวนี้มีส่วนสำคัญต่อกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายช่วย
กระตุ้นให้เลือดไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงตับ ถุงน้ำดี ไต และกระเพาะดีขึ้น
นอกจากนี้กะหล่ำปลีสีม่วงยังอุดมด้วยธาตุเหล็กจึงช่วยเสริมฮีโมโกลบินให้แก่
ร่างกาย
ซึ่งฮีโมโกลบินเป็นตัวการสำคัญที่นำพาออกซิเจนไปกับเม็ดเลือดแดงเพื่อหล่อ
เลี้ยงเซลล์ต่างๆ
อีก
หนึ่งสาเหตุที่กะหล่ำปลีม่วงเป็นผักยอดฮิตสำหรับสลัด
ก็เพราะเป็นพืชที่มีกากใยอาหารสูงและอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารหลายชนิด เช่น
โปรตีน คาร์โบไฮเดรต โซเดียม
และวิตามินซีที่พบว่ามีค่อนข้างมากกว่ากะหล่ำปลีสีเขียวถึงสองเท่า
ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
มีสารซัลเฟอร์ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ใหญ่และต้านสารก่อมะเร็งที่เข้า
สู่ร่างกาย
อย่าง
ไรก็ตามในกะหล่ำปลีไม่ว่าจะเขียวหรือม่วงต่างก็มีสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า
กอยโตรเจนเล็กน้อย
ถ้าสารดังกล่าวมีมากจะไปขัดขวางการทำงานของต่อมไทรอยด์ทำให้นำไอโอดีนใน
เลือดไปใช้ได้น้อย ดังนั้นจึงไม่ควรกินกะหล่ำปลีสด ในปริมาณมากเกินไป
แต่ถ้าสุกแล้วสารกอยโตรเจนจะหายไป
บร็อกโคลี
ถ้า
จะกินผัดผักก็ต้องยกให้บร็อกโคลีเป็นที่หนึ่ง เพราะมากด้วยประโยชน์
รสชาติที่ไม่ขม กรอบ อร่อย จนแม้แต่เด็ก ๆ ก็ทานได้โดยไม่งอแง
และที่สำคัญสมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริกายอมรับว่าเป็นพืชที่ต่อต้าน
มะเร็ง เพราะประกอบด้วยวิตามินเอ แคลเซียม ไรโบฟลาบิน หรือวิตามินบี 2
เป็นต้น
ประโยชน์ของบร็อกโคลี่
บร็อกโคลีเป็นพืชตระกูลเดียวกันกับกะหล่ำปลี กะหล่ำดอก คะน้า และผักกาด โดยมีสารที่เรียกว่า ซัลโฟราเฟน ซึ่งเป็นสารป้องกันโรคมะเร็ง
มีวิตามินซีสูง เพียงปริมาณ 1 ถ้วยตวง ก็ให้วิตามินซีได้มากถึง 13% ของปริมาณวิตามินซีที่เราควรรับประทานต่อวัน
เปี่ยม
ด้วยธาตุซีลีเนียมที่มีสรรพคุณช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง
ดังนั้นถ้ารับประทานบร็อกโคลีเป็นประจำก็จะช่วยชะลอผิวพรรณไม่ให้เหี่ยวย่น
ได้ง่าย
ป้องกันการเกิดต้อกระจก เนื่องจากมีสารเบต้าแคโรทีนสูง โดยเฉพาะสารลูทีนที่สามารถป้องกันความเสื่อมของดวงตา
พริกหวาน
พริก
เม็ดโตสีสันสดใส มีลักษณะกลมยาว หลายครัวเรือนนิยมนำมาผัดเพราะไม่มีรสเผ็ด
เนื่องจากมีสารแคปไซซินในปริมาณที่ตํ่ามากจนถูกเรียกว่าพริกหวาน
ใน
พริกหวาน 100 กรัม สามารถให้คุณค่าแก่ร่างกายได้มาก โดยให้พลังงาน 22
กิโลแคลอรี ซึ่งประกอบด้วย โปรตีน 0.8 กรัม ไขมัน 0.3 กรัม คาร์โบไฮเดรต
4.0 กรัม แคลเซียม 9 มิลลิกรัม โพแทสเซียม 2.5 มิลลิกรัม ไทอะมิน 0.10
มิลลิกรัม ไรโบฟลาวิน 0.05 มิลลิกรัม วิตามินซี 65 มิลลิกรัม
ประโยชน์ของพริกหวาน
พริก
หวานมีเบตาแคโรทีนสูง มีวิตามินซี เหล็ก และโพแทสเซียม
ซึ่งพริกหวานสีเหลืองจะมีไวตามินมากกว่าพริกหวานสีส้มถึง 4 เท่า
ในพริกสีเขียว 100 กรัมก็จะมีไวตามินซี 100 กรัมเช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีสารแคบไซซิน ช่วยยับยั้งอนุมูลอิสระ
ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือด โรคต้อกระจก และโรคมะเร็ง
ใน
หนึ่งเมนูของวัน
ถ้ามีพริกหวานเป็นส่วนประกอบก็จะช่วยกระตุ้นทางการทำงานของกระเพาะอาหาร
ทำให้ระบบการย่อยอาหารดีขั้น ช่วยเจริญอาหารบำรุงธาตุ ขับเหงื่อ ขับลม
ขับเสมหะ แก้อาเจียน แก้หิด กลากเกลื้อน และสามารถลดความด้นโลหิตได้
เพราะทำให้หลอดเลือดอ่อนตัว และช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดเป็นไปได้ดี
อะโวคาโด
ทำ
เอาคนทั่วโลกหลงใหลไปกับความเนียนนุ่มและรสสัมผัสมัน ๆ
ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ อะโวคาโด
ผลไม้แสนอร่อยจากดินแดนอเมริกาใต้รสชาติของผลอะโวคาโดที่มัน ๆ
แต่กินแล้วไม่เลี่ยน ก็เป็นเพราะเนื้อของอะโวคาโดนั้นมีปริมาณไขมันสูง
แต่ไขมันที่ว่าเป็นไขมันดีต่อร่างกาย
เพราะเป็นกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ชื่อว่ากรดไขมันโอเมก้า 9
มีอยู่ในปริมาณสูงเช่นเดียวกับในน้ำมันมะกอก เมื่อกินผลอะโวคาโดเป็นประจำ
ก็จะช่วยลดโคเลสเตอรอลในเส้นเลือดลงได้
ประโยชน์ของอะโวคาโด
อะ
โวคาโดให้พลังงานสูง แต่มีน้ำตาลต่ำ
ดังนั้นผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานจึงสามารถกินได้อย่างปลอดภัย
นอกจากนี้ยังมีโปรตีนสูง ซึ่งเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย วิตามินสูง
ทั้งวิตามินอี วิตามินเอ วิตามินบี และวิตามินซี และยังให้กากใยมาก
จึงเป็นประโยชน์ต่อระบบขับถ่ายอย่างมาก
ถ้า
รับประทานเป็นประจำจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัย
เพราะวิตามินบีในอะโวคาโดจะทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานในรูปแบบต่าง ๆ
รวมถึงการปกป้องผิวหน้าจากมลพิษเสียด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจากE-Magazine
ที่มา http://www.vcharkarn.com/varticle/43701
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น