ข้าวโพด
ข้าวโพดมีทั้งฝักเดี่ยวและฝักคู่ ข้าวโพดไม่ชอบที่ชุ่มน้ำแต่ต้องการน้ำ
ใช้เวลา 75 วันจึงเก็บเกี่ยวข้าวโพดได้
การเตรียมดิน
-การเตรียมดินมีความสำคัญมาก เพราะการเตรียมดินไม่ดีจะทำให้ต้นข้าวโพดมีขนาดไม่เท่ากัน
-เตรียมดินโดยการหว่านด้วยปุ๋ยคอก ปุ๋ยขี้ไก่ เพิ่มอินทรียวัตถุ โดยใช้ปริมาณ 1 ตันต่อไร่
-เมื่อต้นข้าวโพดเข้าสู่ช่วงระยะออกดอก จะปล่อยให้ขาดน้ำไม่ได้ เพราะการขาดน้ำช่วงนี้มีผลให้การผสมเกสรไม่สมบูรณ์ การติดเมล็ดไม่เต็มฟัก
การปลูก
-เมล็ดพันธุ์ที่นำมาปลูกต้องมีคุณภาพ
-พื้นที่ปลูกไม่มีน้ำท่วมขัง และไม่ควรกลบหน้าดินเมล็ดข้าวโพดมากเพราะหากเมื่อแดดแรง ความชื้นไม่พอโอกาสที่เมล็ดจะพองแฟ่บและข้าวโพดขึ้นมีน้อยลง
-การปลูกข้าวโพด 7 วันแรกที่ปลูกต้องให้ความชุ่มชื้นตลอดเวลา หากหน้าดินแห้งจะไม่สามารถปลูกขึ้นได้
-การปลูกข้าวโพดแบบไร่ซึ่งจำนวนไร่มาก โดยเน้นเพื่อการค้า จึงจำเป็นต้องศึกษาระบบการให้น้ำ เนื่องจากข้าวโพดเป็นพืชที่ต้องให้น้ำเยอะโดยเฉพาะตอนเริ่มปลูก และเมื่อช่วงออกดอก
การปรับปรุงดิน
ปอเทือง หรือ ถั่วพร้า ถั่วเขียว ปลูกแล้วไถกลบ 5 กิโลกรัมต่อไร่ ให้ดินมีความร่วนซุยมากที่สุด หลังจากนั้นทำการตีดินเพื่อบดซากวัชพืชไปในตัว
ดินที่ปลูกต้องไม่ใช่ที่แฉะและน้ำขัง การไถ่พื้นที่ปลูกถึงเรียบเสมอกันแม้เป็นที่ดอน หากปรับดินไม่เรียบหลายจุดจะมีน้แอ่งน้ำขัง หากข้าวโพดไม่ตาย ก็ต้องแคระแกรนหรือไม่โต
การเลือกพันธุ์
สภาพดินฟ้าอากาศ ดิน และฝนจะเป็นตัวกำหนดพันธุ์ที่ใช้ปลูก แต่ละสายพันธุ์มีความเหมาะสมในการปลูกไม่เหมือนกัน หากปลูกโดยอาศัยน้ำฝน ความอุดมสมบูรณ์ของดินที่ไม่ดีนักหรือเป็นที่ราบเชิงเขา ควรเลือกใช้พันธุ์ที่อายุเก็บเกี่ยวสั้น ทนแล้งได้ดี ปลูกกับปัจจัยฝักหักง่าย สีสวยสด ในเรื่องของสีจะเป็นตัวกำหนดราคารับซื้อ ซึ่งสีสดจะได้ราคาดีกว่า
สายพันธุ์
-ไฮปริกซ์ 3
-แฟนซีสวีท
การปลูก
ขั้นแรกเลือกเมล็ดพันธุ์ที่ไม่เก่า หรือหมดอายุ เพราะจะงอกน้อยหรือไม่งอกเลย เลือกดูสภาพอากาศว่าฝนจะตกหรือไม่ หรือเมื่อปลูกแล้วฝนจะตกอีกครั้งไหม ช่วงที่ปลูกข้าวโพดต้องดูแลเรื่องน้ำ ถ้าฝนทิ้งช่วงเดือนไหนผลผลิตจะได้ไม่เต็มที่ เมล็ดไม่ค่อยติดฝัก ข้าวโพดไม่โต แคระแกรน ดังนั้นควรเตรียมแหล่งน้ำไว้แต่เนินๆ
การปลูกในหน้าฝนควรระวังเช่นกัน ในช่วงที่ปลูก 4-5 วันแรก หากมีฝนตกเกือบตลอดทั้งวัน ตกไม่หยุดเลยจะทำให้ข้าวโพดที่งอกออกมามีสีเหลือง ไม่เขียวสดเข้มทั้งๆที่ได้รับน้ำเต็มที่แล้วเหตุเพราะไม่มีแดดช่วยสังเคราะห์แสงจึงทำให้ใบมีสีเหลือง และบางหลุมมีเมล็ดพันธุ์ไหลไปกับสายฝนจึงต้องมาปลูกซ่อมใหม่เสียเวลาและเงิน ก่อนปลูกควรศึกษาสภาพอากาศให้ดีก่อน
เมื่อปลูกควรฉีดยาคุมหญ้า จำพวกยาไกลโฟเซต เป็นยาฆ่าหญ้าชนิดดูดซึม เมื่อยาโดนส่วนหนึ่งส่วนใดของหญ้าตัวยาจะกระจายไปยังทุกส่วนของหญ้า หญ้าจะไม่เจริญเติบโตสังเกตตรงยอดของหญ้า
การปลูกข้าวโพดห้ามให้ข้าวโพดขาดน้ำ หากขาดน้ำใบจะเริ่มแหลม ห่อตัวเหมือนใบม้วน เมื่อทำให้ดินชุ่มชื้นใบจะเริ่มคลายตัวเป็นปกติ
การให้ธาตุอาหารแก่พืช
ปุ๋ยอินทรีย์ ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 1 กระสอบและปุ๋ยเคมี 1 กระสอบ ผสมให้เข้ากันปิดปากถุงทิ้งไว้ 1-2 วันแล้วนำมาใช้ การหมักทิ้งปุ๋ยอินทรีย์จะดูดไนโตรเจนเข้าไปในเม็ดปุ๋ยแล้วค่อยๆบ่อยออกมาเพื่อให้พืชค่อยๆดูดซึมนำไปใช้และพืชได้บำรุงดินไปในตัว หากให้แต่ปุ๋ยยูเรียเพียงอย่างเดียวพืชดูดซึมเอาไปใช้ไม่ทันจะระเหยหมด
ระบบราก
รากข้าวโพดมี 3 ชั้น รากแรกคือรากที่อยู่ในชั้นดินซึ่งจะมองไม่เห็น รากที่่สองอยู่เหนือผิวดิน ตอนข้าวโพดกำลังจะออกดอกหรือออกดอกบ้างแล้ว รากชั้นที่สามงอกตัวข้าวโพดออกฝักได้ 5-10 วัน
เตรียมอุปกรณ์
เมล็ดพันธุ์ เมล็ดพันธุ์ 1 โลประมาณ 1000 เม็ด , ค่าปุ๋ย, ค่ายา ต้องซื้อทุกปี
มอเตอร์ 3 แรงและ สายยาง
การเก็บเกี่ยว
การขายข้าวโพดมี 3 แบบเท่าที่เห็นคือ
ขายแบบทั้งฝัก
ขายแบบฝักสด ปลอกเปลือกแล้ว
ขายแบบกะเทาะเมล็ดออกหรือเรียกว่า สีเมล็ดแล้ว ซึ่งราคาจะดีที่สุด แล้วขายแยกราคาเมล็ดกับราคาแกนฝัก แกนฝักก็ไม่เหลือทิ้งนำไปทำเป็นเชื้อเพลิงต่อได้
จ้างแรงงานหักฟักข้าวโพด กระสอบป่านละ 45-50 บาท วิธีนี้แรงงานจะไม่อู้งาน หักข้าวโพดได้เยอะ
หากข้าวโพดปลูกที่บนดอย เวลาเก็บเกี่ยวจะใช้คนหักข้าวโพดเอาใส่ถุงปุ๋ยไว้
หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวโพดแล้ว เกษตรกรนิยมปลูกถั่วเขียว
แรงงาน แรงเงิน
ไกผาล 7
ปั่นตีดิน
รถหยอด รถแทงร่อง หลังจากนั้นใช้แรงงานคนปลูก
เมล็ดพันธุ์ใช้ไร่ละประมาณ 4 กิโลกรัม
ปุ๋ยรองพื้น
ปุ๋ยแต่งหน้า
น้ำมันสูบน้ำเครื่องยนต์ดีเซล ค่าน้ำมันตกไร่ละ 60-70 บาทต่อไร่ น้ำมันดีเซลลิตรละ 30.30
ยาพาราคอตตอนทำรุ่น
โรคและวัชพืช
เชื้อราที่รากเมื่อข้าวโพดเริ่มโตและเริ่มมีฝักแล้ว ต้นข้าวโพดล้มง่ายทั้งๆที่ต้นยังเขียวสดอยู่
หญ้าคาและเถาวัลย์พันต้นข้าวโพด ใช้กรัมม็อกโซนฆ่าระวังอย่าให้โดนยอดข้าวโพด
โรคแผลใบไหม้ เริ่มเกิดจากใบด้านล่างขึ้นใบบน ลักษณะเป็นจุด หนึ่งต้น 20-50 จุดได้ ส่วนใหญ่เป็นเฉพาะบริเวณน้ำขัง
พื้นที่เดี่ยวกันแต่ทำไมบางจุดฝักใหญ่บางจุดแคระเเก่นไม่ได้น้ำหนัก
ตอบลบ