1. วิธีการลดต้นทุนการผลิต หากเราเป็นผู้ผลิตข้าวและค้าข้าวไปด้วย ผลที่ได้จากการสีข้าว แกลบ รำข้าว นำไปขายสร้างมูลค่าลดต้นทุนการผลิตน้อย ปัจจุบันพบเกษตรกรเป็นผู้ค้าขายหาลูกค้าจาก social media เช่น facebook
2.การวัดความหอมคุณภาพของข้าว เป็นการเพิ่มเอกลักษณ์พิเศษในตัวสินค้า แรงดลใจต่อผู้ซื้อ และส่วนใหญ่สินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมีราคาแพง เช่น Nepal tea , Parmesan cheese สินค้าเหล่านี้ล้วนใช้ความหอมของสินค้าเป็นจุดขาย
3. Fair trade การสร้างระบบยุติธรรมทางการค้า Fairtrade ทางด้านแรงงาน
สิ่งแวดล้อม สังคม ราคาสินค้า รับรองโดย FLO ( Fairtrade
Labelling Organizations) โดยสมาชิกต่างๆจากโลกที่หนึ่ง
4.ช่องทางการส่งข้าว การเพิ่มยอดขาย ให้ผู้ซื้อเริ่มรู้จักสินค้า
ให้ความสะดวกกับผู้ซื้อ เป็นวิธีการปรับตัวธุรกิจในปัจจุบันเพื่อแข่งขันกับผู้ค้ารายใหญ่ในตลาด
หากผู้ขายมีธุรกิจหลักซึ่งอาศัยโลจิสติกส์เป็นหลักอำนวยความสะดวกให้กับผู้ค้าเช่น
ธุรกิจสิ่งพิมพ์ การขายน้ำดื่ม การขายข้าวสารถุงเสริมการขายในธุรกิจดังกล่าวจะเป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายเป็นอย่างมาก
5. สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ประสบการณ์โดยตรงของผู้ซื้อข้าวหอมมะลิรับประทานหากมีโอกาสไปเที่ยวหรือธุระส่วนตัวในเขตภาคอีสานเช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ มหาสารคาม ศรีสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด หากคุณลองซื้อข้าวหอมมะลิเฉพาะพื้นที่เหล่านี้มารับประทาน มีรสชาติอร่อยและหอมกว่าข้าวหอมมะลิภาคอื่นๆของประเทศ ลักษณะการผลิตสินค้าจากพื้นที่ภูมิศาสตร์โดยเฉพาะเรียกว่า GI ย่อมาจาก Geographical indications การสร้างเอกลักษณ์สินค้าทางภูมิศาสตร์ต้องในเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น หากไปปลูกในพื้นที่อื่นคุณภาพสินค้าลดลง เมื่อสินค้าออกสู่ตลาดน้อย มีเฉพาะบางพื้นที่ จึงเป็นการสร้างแบรนด์ให้มูลค่าสินค้าสูงขึ้น สินค้าเหล่านี้มีทั่วโลกเช่น แชมเปญ ต้องผลิตขี้นจากเมือง Champagneประเทศฝรั่งเศส อีกตัวทีเป็นไอเดียหลักคือ Nepal Tea เป็นชาจากเมือง Dhankutamkตั้งทางภาคตะวันออกของเนปาล โด่งดังจากตัว Aromatic Tea ได้รับการสนับสนุนเป็นสินค้า GI จากการเมืองเนปาล เกษตรกร องค์กร ภาคเอกชนเช่นตระกูลVidya ชาโด่งดังมากในเยอรมัน อเมริกา ญี่ปุ่น
5. สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ประสบการณ์โดยตรงของผู้ซื้อข้าวหอมมะลิรับประทานหากมีโอกาสไปเที่ยวหรือธุระส่วนตัวในเขตภาคอีสานเช่น บุรีรัมย์ สุรินทร์ มหาสารคาม ศรีสะเกษ ยโสธร ร้อยเอ็ด หากคุณลองซื้อข้าวหอมมะลิเฉพาะพื้นที่เหล่านี้มารับประทาน มีรสชาติอร่อยและหอมกว่าข้าวหอมมะลิภาคอื่นๆของประเทศ ลักษณะการผลิตสินค้าจากพื้นที่ภูมิศาสตร์โดยเฉพาะเรียกว่า GI ย่อมาจาก Geographical indications การสร้างเอกลักษณ์สินค้าทางภูมิศาสตร์ต้องในเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น หากไปปลูกในพื้นที่อื่นคุณภาพสินค้าลดลง เมื่อสินค้าออกสู่ตลาดน้อย มีเฉพาะบางพื้นที่ จึงเป็นการสร้างแบรนด์ให้มูลค่าสินค้าสูงขึ้น สินค้าเหล่านี้มีทั่วโลกเช่น แชมเปญ ต้องผลิตขี้นจากเมือง Champagneประเทศฝรั่งเศส อีกตัวทีเป็นไอเดียหลักคือ Nepal Tea เป็นชาจากเมือง Dhankutamkตั้งทางภาคตะวันออกของเนปาล โด่งดังจากตัว Aromatic Tea ได้รับการสนับสนุนเป็นสินค้า GI จากการเมืองเนปาล เกษตรกร องค์กร ภาคเอกชนเช่นตระกูลVidya ชาโด่งดังมากในเยอรมัน อเมริกา ญี่ปุ่น
6. การผลิตสินค้าและการบริการใหม่ ( new products and services ) สิ่งเหล่านี้สอดคล้องกับเศรษฐกิจ สังคม
ความทันยุคทันสมัย
เรียนรู้พฤติกรรมผู้บริโภค
สินค้าเหล่านี้ได้รับผลตอบแทนสูงเนื่องจากเป็นผู้นำตลาดและได้รับการยกย่องจากสังคมเพราะต้องใช้การครีเอทีฟ
และเอาใจใส่สินค้าและผู้บริโภค
7. นักออกแบบผลิตภัณฑ์และนักสร้างแบรนด์ ( packaging designer and branding ) ผู้ผลิตสินค้าตัวจริงอย่างเกษตรกร หากเรียนรู้และสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตนเองขึ้นมา
8. สร้างจุดขายสินค้าใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเจเบื่อหน่าย ( สินค้ายอดนิยมและความเบื่อหน่ายจำเจพึงระลึกอยู่จุดเดียวกัน)
9. การสร้างสินค้าที่มีจำนวนจำกัด ( Limited edition) ตัวอย่างเช่นลักษณะข้าวที่มีเฉพาะในท้องถิ่นอย่างข้าวดอยจังหวัดเชียงราย
7. นักออกแบบผลิตภัณฑ์และนักสร้างแบรนด์ ( packaging designer and branding ) ผู้ผลิตสินค้าตัวจริงอย่างเกษตรกร หากเรียนรู้และสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของตนเองขึ้นมา
8. สร้างจุดขายสินค้าใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความจำเจเบื่อหน่าย ( สินค้ายอดนิยมและความเบื่อหน่ายจำเจพึงระลึกอยู่จุดเดียวกัน)
9. การสร้างสินค้าที่มีจำนวนจำกัด ( Limited edition) ตัวอย่างเช่นลักษณะข้าวที่มีเฉพาะในท้องถิ่นอย่างข้าวดอยจังหวัดเชียงราย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น